วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ประเภทและประโยชน์ของเห็ด


ความสำคัญของเห็ด
           มนุษย์ทั่วโลกรู้จักเห็ดมานานที่สายพันธุ์ของเห็ด มากกว่า 30,000 สายพันธุ์ แต่มีถึงร้อยละ 99 สายพันธุ์ที่บริโภคได้ที่เหลือร้อยละ 1 เป็นเห็ดพิษหรือเห็ดเมาในอดีตเห็ดที่นำบริโภคนั้นมีเพียงไม่กี่ชนิด เช่น เห็ดฝรั่ง เห็ดหอม เห็ดโคน และเห็ดฟาง

           ในปัจจุบันพบว่าหลายๆประเทศหันมาให้ความสนใจและร่วมมือกันในการวิจัยและค้นคว้า ทดลอง คัดเลือก และปรับปรุงพันธุ์เห็ด  ให้มีจำนวนมากขึ้น และพัฒนาเทคนิควิธีการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิตให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค

           ประเทศไทยเป็นประเทศที่เหมาะต่อการเพาะเห็ดอย่างมาก เพราะมีวัสดุเหลือใช้จากพืชเศรษฐกิจสามารถนำมาดัดแปลงเพาะเห็ดได้เป็นอย่างดีประกอบกับมีสภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเห็ดเกือบทุกชนิด ดังนั้นจึงควรส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาเพาะเห็ดกันอย่างจริงจังแล้ว จะช่วยเพิ่มอาหารที่มีคุณค่าและทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น



การจำแนกประเภทของเห็ด
เห็ดอาจจำแนกได้เป็น  3  กลุ่ม  ได้แก่

1.  กลุ่มเห็ดที่ใช้เป็นอาหาร  เป็นเห็ดที่มีคุณค่า  และมีส่วนประกอบของ      สารอาหารหลายชนิด  เช่น  โปรตีนและวิตามิน  ได้แก่  เห็ดฟาง , เห็ดนางฟ้า , เห็ดหูหนู  เป็นต้น

2.  กลุ่มเห็ดที่ใช้เป็นยาสมุนไพร  เพราะเชื่อว่ามีสารที่เป็นสรรพคุณทางยา     ได้แก่  เห็ดหลินจือ (เห็ดพันปี)รับประทานแล้วจะเป็นยาบำรุงกำลังทำให้สุขภาพแข็งแรง  เห็ดหอม  รับประทานแล้วจะช่วยบำบัดโรคบางชนิดได้  เช่น  ต้านโรคมะเร็ง , ต้านไวรัส  ช่วยลดความดันโลหิตและลดโคเรสเตอรอล  เป็นต้น

3.  กลุ่มเห็ดที่เป็นพิษ  เห็ดกลุ่มนี้ถ้าบริโภคเข้าไปจะมีพิษ  ถ้าบริโภคมากอาจถึงตาย  เพราะพิษจะเข้าไปในระบบเลือด  กระจายไปทั่วร่างกายมึนเมาอาเจียน  เช่น    เห็ดระโงกหิน

ประโยชน์ของเห็ด
           1. คุณค่าทางอาหารของเห็ด  จากการค้นคว้าเกี่ยวกับคุณค่าทางอาหารของเห็ด โดยกรมวิทยาศาสตร์พบว่า เห็ดที่มีจำหน่ายในท้องตลาด เช่น เห็ดฟาง เห็ดหูหนู เห็ดนางรม เห็ดเป๋าฮื้อ และเห็ดนางฟ้า เมื่อนำมาวิเคราะห์พบว่าประกอบด้วยสารอาหาร พวกคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน แร่ธาตุต่างๆ และวิตามิน ที่แตกต่างกัน จากชนิดสารอาหารที่ พบในเห็ดดังกล่าว ย่อมพิสูจน์ได้ว่าเห็ดเป็นอาหารที่มีคุณค่าเทียบเท่าเนื้อสัตว์จริง

           2. สรรพคุณทางยา ของเห็ด ในการบริโภคอาหารควรเลือกบริโภคพืชผักที่มีคุณค่าทางอาหารทดแทนเนื้อสัตว์บ้าง โดยเฉพาะพืชที่ประเภทเห็ดจะไม่มีสารคอเรสตอรอลที่เป็นอันตรายต่อระบบไหลเวียนโลหิตประกอบกับเห็ดมีปริมาณธาตุโซเดียมค่อนข้างต่ำ จึงจัดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับ    ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับ โรคไตโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง

การบริโภค
การบริโภคเห็ด ในจีนและญี่ปุ่น นิยมนำมาทำน้ำแกง น้ำชา ยาบำรุงร่างกาย ทางฝั่งยุโรปนำไปปรุงเป็นซุป ในประเทศไทยมีการนำมาผสมในแกงต่าง ๆ รวมถึงต้มยำ และบางชนิดก็นำมาต้มจิ้มน้ำพริกอีกด้วย มีการจำหน่ายเห็ดเพื่อการบริโภค จึงมีธุรกิจทำฟาร์มเห็ด หรือการเพาะเห็ดเพื่อจำหน่ายเห็ดสด รวมทั้งแปรรูปเห็ด เช่น เห็ดกระป๋อง

แหล่งข้อมูล : http://www.simuang.ac.th/vichakhan/somchai/content_2.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น